เรียนเทป DVD อังกฤษ

เรียนเดี่ยว เทป DVD    รับรองผล อ่านTextbook ยาก ๆได้โดยไม่ต้องท่องศัพท์

อ่านบทความทั้งหมดให้จบนะครับ ก่อนลงทะเบียนเรียน  จะได้รู้แนวคิด วิธีการสอน  และสำคัญที่สุดเรียนไปแล้ว ได้อะไร ได้ผลหรือไม่  จะเสียเวลาและเงินโดยไร้ประโยชน์หรือเปล่า มีอะไรยืนยันว่าได้ผลจริง มีคำตอบพร้อมหลักฐานประกอบอยู่ในเทปครับ  (อัดจากคลาสสด เรียนเดี่ยว)


เรียนเทป  DVDเลือกเวลาเรียนเองตามเหมาะสม  (เป็นหสักสูตรเหมาะสำหรับไปอ่าน Textbooks ,TOEFL , IELTS , TOEIC, Academic Reading and Writing, English Entrance เข้า มหาวิทยาลัย หรือ เข้าเตรียมอุดมศึกษา (เตรียมใหญ่), หรือต้องการพัฒนาทักษะทางด้านการอ่านทั่วไปเช่น หนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างประเทศ ทุกฉบับทุกแนว

ใช้ตำรานี้นะครับ

Academic Encounters- Reading, Study skills, and Writing

Human Behavior  , CAMBRIDGE UNIVERSITY PRESS

By Bernard Seal

ISBN 0-521-47658-5 


ซึ่งเป็นตำราสำหรับเตรียมความพร้อมสำหรับศิษย์ที่จะต้องไปอ่าน Textbooks ต่าง ๆ ใช้ประกอบการสอนในหลากหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลกครับ เป็นเล่มที่ยากที่สุดในชุด  Academic Books ของสำนักพิมพ์ที่มีชื่อ  ตำราดี CAMBRIDGE UNIVERSITY PRESS โดยผมจะสอนเป็นเล่มแรก  จะสอนจากยากสุดไปหาง่ายสุด โดยใช้ทักษะต่างๆ จากประสบการณ์สอนมา 22 ปี ตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ในฐานะที่เป็นติวเตอร์  ที่เคยสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัย คืออ่านเล่มนี้ได้อีกสามเล่มก็อ่านได้ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ และคอนเฟิมว่าอ่านข้อสอบ และทำข้อสอบได้อย่างไม่ติดขัด รับรองผลจากศิษย์ที่นั่งเรียนในเทป  ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่สอนจนชั่วโมงสุดท้าย จะเห็นพัฒนาการจริง ว่าเก่งขึ้น เพราะเป็นการอัดสดตั้งแต่ชั่วโมงแรกจนจบเล่ม   ปรกติครูคนอื่นสอนจากง่ายไปยาก  ครูนัยสอนจากยากไปง่าย  คนอื่นให้ท่องศัพท์ ผมจะบอกว่า ท่องไปทำไม ท่องไปแล้วดี๋ยวเดียวก็ลืม   คนอื่นบอกกลับไปทวนเยอะ ๆ  ผมบอกกองหนังสือไว้นี่แหละเอาไปก็ไม่อ่าน ถ้าเอาไปอ่านขยันจริงก็เอาไป  เพราะมันยากอ่านไม่รู้เรื่องหร๊อก  ถือให้หนักทำไม ผมสอนแนวธรรมชาติ ไม่สอนสอนเยอะให้วุ่นวาย หลากหลายคอร์สเหมือนชาวบ้าน ท้ายสุดจบแต่ละคอร์ส ความรู้ลืมหมดเป็นศูนย์ ลงหม้อ หยิบจับตำราเล่มไหน อ่านไม่ได้ ไม่มั่นใจ ว่าที่อ่านเข้าใจถูกหรือผิด สำคัญสุดไม่มั่นใจ เพราะไม่มีครูคอยชี้แนะ บอกทีละประโยค  แปลหมดทุกคำเหมือนที่ผมสอน โดยให้หลักในการสังเกต การรวบคำ การใช้คำเชื่อม เรียนจบรับแปลตำราขายได้เลย คอนเฟิร์มครับ  ผมสอนเล่มนี้เล่มเดียวสามารถไปตอบโจทย์ทุกแนวครับ  ทำข้อสอบได้ทุกแนว ทั้งในระดับ ปริญญาตรี  โท เอก เอาเล่มนี้ให้รอดเข้าใจมันทุกแง่มุม ว่าทำไมผู้เขียน เขียนอย่างนี้ ไม่เขียนแบบนี้ จะเขียนยังไงได้อีก  ผู้เขียนลดรูปประโยคยังไง ประธาน กริยา กรรม อยู่ตรงไหน วิเคราะห์จากงานเขียนของเจ้าของภาษา ไม่ได้ให้ท่องจำ แต่วิเคราะห์ให้เห็นว่า  ทำไมเค้าเขียน อย่างนี้ อย่างนั้น  อย่างโน้น ถอดความหมายโดยใช้คำทุกคำจากโครงสร้างแกรมม่า  โดยอาศัยความคุ้นเคย เสมือนหนึ่งเราอ่านหนังสือไทยได้ตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาไทย มานี มานะ ปิติ ชูใจ อามีตา กามานา อาดูปู  โดยที่เราไม่รู้ว่า ประธาน กริยา กรรม ภาคขยายต่าง ๆ ของประโยคคือส่วนไหน  รู้อย่างเดียวว่า มันใช้อย่างนี้ มันอ่านอย่างนี้ และสำคัญที่สุด มันถูกต้องและไม่น่าเบื่อ คงประมาณนี้ครับ ชวนให้ติดตาม ถ้าเราสอนอังกฤษออกแนวที่ผมว่า รับรองว่าเด็กไทยอ่านเขียนอังกฤษ คล่องทุกคน และผมก็เป็นครูคนแรกจริง ๆ นะครับ ที่สอนไม่เยอะแต่เอาไปใช้งานได้เยอะ ใช้งานได้จริง  ไม่ลองไม่รู้ อดทนเรียนดู ผมผ่านการเรียนภาษามา 32 ปี  ตั้งแต่ ป.4 จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนบ้านนอก อยู่กลางทุ่งนา ชนบทสุดๆ แต่โรงเรียนมีห้องสมุดที่ดีที่สุด ทั้งในระดับประถม และ ม.ปลาย  เก็บเงินค่าขนมวันละ 50 สตางค์ไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษโดยมีรุ่นพี่ที่เก่งที่สุดของระดับสายชั้น ม.ปลายสอนให้ขณะที่ผมอยู่ ป.4 เก็บเงินไปเรียนเองหนะไม่ได้ขอแม่  เห็นพัฒนาการภาษามาเรือยๆ ได้เรียนกับติวเตอร์ คณาจารย์ ที่เก่ง ทั้งในและต่างประเทศ ขอบคุณสำหรับการได้เจอประสบการณ์ดีๆ ทางด้านภาษาอังกฤษจากครูทุกท่าน สำคัญที่ลืมไม่ได้คือทางความคิดที่เปลี่ยนชีวิตการเรียนการสอนภาษา คือน้องอิริค ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน จากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี (กรุงเทพฯ) ซึ่งจะได้บอกกล่าวในบทความถัดไปว่าแนวคิดสำคัญที่ได้จากน้องอิริคคืออะไร ทำไมเขาจึงเป็นครูทางความคิดที่เปลี่ยนชีวิตการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาที่สองของผมครับ

 

ลักษณะการเรียนการสอนในเทป

 

อัดจากคลาสสอนสด เรียนคนเดียว  ศิษย์ชื่อ นนทพัฒน์  เสนาะกรรณ์  (พี่นนท์) นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบดินทรเดชา1  เป็นคลาสสอนก่อนจะสอบเข้าเตรียมใหญ่ เน้นทักษะการอ่าน Textbook ที่เป็นประโยคซับซ้อนเกือบทั้งเล่มโดยใช้คำศัพท์ทุกคำในการถอดความหมาย ไม่ข้ามแม้แต่คำเดียว เพื่อจะได้เห็นโครงสร้างของคำในประโยค การวางตำแหน่ง เพื่อประโยชน์ในการเขียน และการทำข้อสอบ Part Error Analysis จำคำศัพท์โดยไม่ต้องท่องจำ เห็นตำแหน่งการวางผิดตำแหน่งได้เมื่อวิเคราะห์โครงสร้าง โดยไม่ต้องท่องจำ แกรมม่าที่ซับซ้อน แต่สอบทีไรแห้วทุกที นึกกฎแกรมม่าไม่ทัน เพราะถูกสอนให้ท่องมา ไม่ได้มองแบบอาศัยความคุ้นเคย  ไม่ได้แปลสรุป แต่เป็นการแปลที่วิเคราะห์โครงสร้างทางภาษาของประโยค ใช้ทักษะความคุ้นเคย แปลได้โดยธรรมชาติ แม้จะเป็นประโยคที่ซับซ้อน ความยากเนื้อหาเทียบเคียงการอ่านเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย  สอบ TOEFL , IELTS , TOEIC ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่าง ๆ

           

หลังจากเรียนจบบทที่ 8 น้องนนท์ก็สอบเข้าเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้เป็นที่เรียบร้อยในรุ่นปี 2557 สายวิทย์-คณิต โดยไม่ติวภาษาอังกฤษเพิ่มจากที่ใดๆ เรียนกับครูนัยที่เดียว  สัดส่วนอังกฤษอยู่ที่ 80 %ในการสอบเข้า   เน้นการเรียนที่เป็นธรรมชาติไม่ต้องท่องจำ  มีทักษะการมองคำ การจำ การวางตำแหน่งคำ สำคัญสุดการเชื่อประโยคเพื่อต่อยอดความคิด  ที่จะเข้าใจความหมายได้โดยธรรมชาติโดยไม่ติดขัด สละสลวย สำคัญสุดลึกซึ้งและไม่ผิด ในประเด็นการตีความ           จะเห็นพัฒนาการตั้งแต่ต้นชั่วโมงแรก เพราะน้องนนท์ต้องนั่งแปลตั้งแต่หน้าแรกจนจบเล่ม  โดยมีครูนัยคอยเป็นคอมเม้นเตเตอร์ครับ คอยทักและท้วงว่าวางคำผิดยังไง จะเริ่มตรงไหนยังไง หนุกหนานครับ แต่เห็นพัฒนาการชัดเจน  น้องเค้าจะเสียงเอื่อย ๆ หน่อย ฟังแล้วแทบจะหลับ  ไม่คึกคักแต่ศิษย์ที่เรียนเทปจะได้เห็นพัฒนาการทางภาษาในการแปล การมองคำ ความก้าวหน้าชัดเจน 100 % จากคลาสเรียนที่อัดไว้ครับ 

           

สำหรับใครที่ไม่ชอบแนวทางนี้ ก็ท่องจำต่อไป ก็บอกแล้วไม่ฟัง ดื้อมากก็ทนท่องคำศัพท์ต่อไป ใครไม่ดื้อก็ดีใจด้วยหนะที่พบทางสว่าง 555 ใครที่ดื้อมากก็ค้นหาไปเรื่อย ๆนะครับ ผมเริ่มตรัสรู้ทางภาษาอังกฤษ  เมื่ออายุ29 ครับจากน้องอิริคนักเรียนเกรด 10 หรือ ม.4 (จะเล่าในบทความหลังๆ ครับ) แต่ท้ายสุดก็กินแห้วนะครับ ไม่เชื่อก็ไปท่องแกรมม่า มาเหมือนเดิมหนะ การสอนแนวที่ผมสอน น่าจะมีผมเป็นเจ้าแรกครับ ที่อื่นเค้าไม่ทำกัน เพราะมันยาก ต้องนั่งจับผิดทุกคำ ทุกความคิด ทุกคำพูด แต่สอนแล้วเด็กเก่ง ใช้งานได้จริง ไม่เชื่อก็ต้องลองเรียนดูสักคอร์ส กัดฟัน ทนเรียน ไม่ได้ผลติดขัดแวะมาหาได้ครับ  เพราะประสบการณ์ตรงจากครูนัย สมัย 30 ปีที่ผ่านมาถูกสอนแกรมม่าอย่างเข้มข้น ท่องศัพท์กันจนตัวเหลืองอะคับ ท่องไปทำไมก็ไม่รู้ บางคำท่องไปเจอในประโยคที่ซับซ้อนก็ใช้ไม่เป็น ไม่รู้จะให้ความหมายเทียบเคียงยังไง         มิหนำซ้ำจำย๊ากยากจนไม่อยากจะจำ   สำคัญสุดที่สอนไม่เหมือนใครคือผมสอนจาก Textbook ที่ยากที่สุด ไปหาง่ายทีสุด  ไม่ต้องมีพื้นฐานมากมาย แค่มีความต้องการอยากจะเรียนรู้  รับรองอ่านภาษาอังกฤษได้แน่นอน

 

กรณีศึกษาที่ 1

 

ครูที่เป็นศิษย์ชื่อ อิริค นักเรียนชั้นเกรด 10 หรือ ม.4 โรงเรียนนานาชาติ 

 

เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการสอนจากการได้สอนลูกศิษย์ที่เป็นลูกครึ่งไทย–อเมริกัน เรียนที่โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ถือเป็นโรงเรียนนานาชชาติเบอร์หนึ่ง เพราะค่าเทอมแพงหลายแสนต่อเทอม ผมได้สอนเลขน้องเค้าขณะที่น้องเรียนชั้นเกรด 10 คือ ม.4 ก็ลองทดสอบภาษาอังกฤษดู คะแนนดีมาก ทำได้หมดในข้อสอบยาก ๆ แต่ถามโครงสร้างทางภาษาที่เป็นแกรมม่า น้องอิริค ตอบไม่ได้ ได้แต่บอกว่าไม่รู้สิครับ  แต่ผมเห็นเขาใช้อย่างนี้นะครับ  น้องเค้าพูดไทยได้นิดหน่อย ผมสอนเลขเป็นภาษาอังกฤษ (ที่สอนเลขได้เพราะผมจบสายวิทย์ เป็นนักเรียนทุนคุรุทายาทรับราชการครู สอน วิทย์-คณิต ระดับ มัธยม) มีความสงสัยว่าทำไมมันเก่งจัง เลยขอดูกระเป๋านักเรียน แทบอึ้งน้องเค้าพกหนังสือนวนิยาย 5-6 เล่มทุกวัน อ่านเก่งมาก เด็กผู้ชายแต่ชอบอ่านนิยายหลากหลาย  สอบถามเพื่อนๆ น้องอิริคหลายคน   พบว่าคะแนนภาษาอังกฤษ ของอิริค เค้าเก่งเป็นเบอร์ต้น ๆ ของสายชั้นเกรด 10 ครับ ถึงบางอ้อหละครับ ผมเลยปรับเปลี่ยนวิธีสอนเน้นการอ่าน พัฒนาการอ่าน  ผมว่าแต่ละคนมีแนวทางแตกต่างกันออกไป สุดแต่จะไขว่คว้า สำคัญสุดคือเป้าหมายหนะไปถึงอะป่าว  เรียนมากแต่ไปไม่ถึงเป้าหมาย มาเรียนน้อย ๆ แต่ถึงเป้าหมาย และตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม ล้อมคอก ดูจากที่สอน ผมเลือกสอนเล่มที่ยากที่สุดสำหรับฝึกเด็กทุกคน ตรงข้ามทฤษฎีทางด้านการเรียนภาษาที่สอง (Second Language Learning) ผมก็สอนได้สำเร็จทุกคนที่เชื่อ และไม่ดื้อรั้น  สำคัญที่สุดในเทป DVD ที่จะได้เรียนรู้ต่อไปคือเป็นหลักฐานชัดเจน  เพราะอัดเทปตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเรียนจนน้องสอบเข้าเรียนต่อได้ขณะสอนไปได้จบแค่บทที่ 8 ซึ่งขาดอีกสองบท เนื้อสมองธรรมดามาก   โดยไม่ติวที่ใดเลย ตอนนี้กำลังเตรียมติวเพื่อสอบทุนต่าง ๆ ไปเรียนต่อในระดับ ปริญญาตรี โท เอก  เรียนไม่เยอะแต่สอบได้ ต่างกันหนะเรียนกันแทบจะตาย แต่สอบไหนไม่ติด เฮ่อ ว่าแล้วก็เหนื่อยใจแทน... 

 

กรณีศึกษาที่ 2

ชื่อน้องจอมนะครับเป็นน้องชั้น ม.4

           

ตอกย้ำว่ามาได้ถูกทางเมื่อปี 2547 สอนน้องคนหนึ่งภาษาอังกฤษไม่เก่งเอาเสียเลย  ขณะที่น้องเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนนวมินทร์เตรียมน้อม (ม.สัมมากร)  คุณพ่อเป็นศิษย์บดินทรเดชา1 รุ่นแรก จบคณะวิศวะกรรมศาสตร์ จุฬาฯ  ลูกชายบอกว่าอยากเข้า พานิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ทำข้อสอบเอนทรานซ์เกือบจะหมดสต๊อกข้อสอบ คะแนนอยุ่ที่ 67-75 เต็มร้อย บางชุดกระโดดไปที่ 80 ต้น ๆ แต่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70 ไม่เป็นที่พอใจ เลยบอกว่าเออแด่วเมิงลองเรียนเล่มนี้ดู  ก็คือเล่มที่สอนอยุ่ในเทป DVD ชุดนี้  ดูธรรมด๊า ธรรมดา แต่ขลังทีเดียวหนะครับ  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ต้องเข้าใจอย่างแท้จริง

 

Academic Encounters- Reading, Study skills, and Writing

Human Behavior  , CAMBRIDGE UNIVERSITY PRESS

By Bernard Seal    ISBN 0-521-47658-5 


สอนไปจนจบเล่มครับ คะแนนพัฒนาไปจนมาตรฐานการทำข้อสอบอยู่ที่ 90 คะแนนกว่าครับ หลังจากสอนเล่มนี้จบ และน้องเค้าสอบตรงเข้าคณะพานิชยศาสตร์และการบัญชีหลักสูตรต่อเนื่องเรียน 5 ปีได้วุฒิปริญญาโท  โดยยื่นผลสอบคะแนนอังกฤษ ที่หลาย ๆคน บ่นว่ายาก TU-GET


พยายามหาตำราที่ยากและเขียนได้ดีกว่านี้แต่ก็ยังหาไม่ได้จนถึงปัจจุบัน เอาแบบโครงสร้างซับซ้อน การเล่นคำ  ใครมีหนังสือดี ๆ ลองแนะนำหน่อยนะครับ  ผมชอบแนววางสำนวนการเขียนดี  ลูกเล่นในการใช้คำ เพราะเวลาสอนแปลแล้วหนุกหนานครับ  ทำให้ต้องคิดหลายตลบ  ชอบในแนวที่ต้องตีความคำศัพท์ในบริบทต่างๆ ของประโยค  สำคัญสุดเอาไปใช้ได้จริง เมื่อศิษย์เรียนจบแล้ว อ่านเขียนได้คล่องครับ  สำคัญสุดเรื่องที่อ่านต้องมีประโยชน์กับทุกคนที่ได้เรียน  ซึ่งในชุดนี้ถือว่าผู้เขียนทำได้ดีมาก ผมช๊อบ ชอบ อย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่ได้สอน  ไม่เคยรู้สึกเบื่อครับ...


ให้กำลังใจทุกคนครับ


ครูนัย

 

Visitors: 84,267